เจาะลึกอันตรายจากโบท็อกซ์ปลอม

โบท็อกซ์นับเป็นหัตถการพื้นฐานที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จนทำให้โบท็อกซ์ปลอมระบาดมากขึ้น แล้วโบท็อกซ์ปลอมมีลักษณะอย่างไร มีอันตรายอะไรบ้าง และจะมีวิธีตรวจสอบอย่างไร

โบท็อกซ์ปลอม

ด้วยการแข่งขันในวงการคลินิกเสริมความงามที่สูงขึ้นอย่างมาก ทำให้หลายคลินิกเลือกที่ใช้โบท็อกซ์ปลอมหรือโบท็อกซ์ที่ไม่ได้มาตฐานกันมากขึ้นเพื่อลดต้นทุน หรือแม้แต่ทางคลินิกเองก็ถูกเซลล์หลอกขายโบท็อกซ์ปลอมมาเช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่าการที่ฉีดโบท็อกซ์ที่ไม่ได้มาตรฐานเข้าไปย่อมทำให้เกิดอันตรายได้ แล้วเราจะมีวิธีรับมือและวิธีตรวจสอบโบท็อกซ์ปลอมได้อย่างไรบ้าง วันนี้มาไขข้อข้องใจกัน

ประเภทของโบท็อกซ์ที่นำเข้ามาในประเทศไทย

  • โบท็อกซ์แท้ จะเป็นโบท็อกซ์ที่นำเข้าผ่านการลงทะเบียนถูกต้องหรือโบท็อกซ์จากบริษัทโดยตรง มีการควบคุมอุณหภูมิยาขณะขนส่ง ทำให้ยามีประสิทธิภาพคงเดิม ที่สำคัญคือสามารถตรวจสอบได้
  • โบท็อกซ์หิ้ว เป็นโบท็อกซ์ของแท้แต่ไม่ได้ผ่านการลงทะเบียน ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาที่ชัดเจนในเรื่องของผู้ผลิตและผู้นำเข้า รวมไปถึงขั้นตอนการขนส่งและการเก็บรักษาที่ไม่ได้มาตรฐาน ทำให้อุณหภูมิที่เก็บรักษาตัวยาไม่คงที่ คุณภาพโบท็อกซ์เสื่อม ทำให้เมื่อนำมาฉีดอาจไม่มีคุณภาพ ไม่มีประสิทธิภาพ ฉีดแล้วไม่เห็นผล เสี่ยงเกิดภาวะดื้อโบท็อกซ์ และที่อันตรายมากกว่านั้นคือการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อราที่มาจากการเก็บรักษาที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นอาจทำให้เกิดการติดเชื้อตามมาได้
  • โบท็อกซ์ปลอม เป็นโบท็อกซ์ถูกสร้างขึ้นมาเลียนแบบของแท้ ในผลิตภัณฑ์เราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขาใช้สารอะไรใส่เข้าไป อาจจะเป็นพวกสารเหลว ซิลิโคลนเหลว ไม่สามารถย่อยสลายเองได้ ปริมาณยูนิตไม่คงที่ ไม่มีระบบการควบคุมคุณภาพตัวยาระหว่างการขนส่ง ซึ่งผลข้างเคียงของการใช้โบท็อกซ์ปลอมมีอันตรายที่น่ากลัวมาก เพราะไม่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากอย. อาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปากเบี้ยว หนังตาตก บริเวณที่ฉีดมีอาการแพ้ แดง เกิดผื่นคันหรือรอยเขียวช้ำ นอกจากนั้นยังเสี่ยงที่จะเกิดการดื้อยาอีกด้วย ซึ่งวิธีการแก้ไขอาจต้องขูดหรือผ่าตัดออกเลยทีเดียว

อันตรายจากการฉีดโบท็อกซ์ปลอม

1. เกิดผลข้างเคียงที่ผิดปกติ

การใช้โบท็อกซ์ปลอมอาจไม่สามารถควบคุมการกระจายตัวของยาได้เพราะน้ำหนักโมเลกุลไม่เท่ากัน ซึ่งหากตัวยากระจายตัวกว้างเกินไปหรือกระจายไปยังส่วนอื่นๆ ที่ไม่ต้องการ เนื่องจากคุณสมบัติของโบท็อกซ์คือยับยั้งการทำงานของกล้ามเนื้อก็อาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ผิดปกติได้ เช่น ทำให้เกิดอาการหนังตาตก หางคิ้วกระดก ปากเบี้ยว แต่สิ่งที่อันตรายกว่านั้นคือส่งผลต่อการกลืน การเคี้ยว รวมถึงส่งผลต่อการมองเห็น

2. ผลข้างเคียงระดับรุนแรง

การฉีดโบท็อกซ์ด้วยตัวยาที่ไม่ได้มาตรฐานจนเกิดการปนเปื้อนของเชื้อโรค ประกอบกับกระบวนการฉีดที่ไม่ถูกต้อง อาจส่งผลข้างเคียงที่รุนแรงทางผิวหนัง โดยแสดงออกได้หลายรูปแบบ เช่น แผลเรื้อรัง ฝี ผื่นหน้าขรุขระ หรือก้อนใต้ผิวหนังโดยไม่มีรูปแบบจำเพาะเจาะจง ซึ่งกรณีที่ผลข้างเคียงระดับรุนแรงนี้รักษาได้ยาก อาจต้องใช้การผ่าตัดเพื่อกำจัดชิ้นเนื้อบริเวณที่ติดเชื้อโรคออก

3. ไม่เห็นผลการรักษา ดื้อยา ดื้อโบท็อกซ์

โบท็อกซ์ปลอมย่อมมีความบริสุทธิ์ของตัวยาน้อยกว่าของแท้จาก Botox Xeomin รวมถึงการที่ตัวยาถูกเจือจางอย่างมาก หรือการเก็บรักษาในอุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม จะทำให้ประสิทธิภาพของโบท็อกซ์ลดลง จะทำให้ยาหมดฤทธิ์เร็วกว่าปกติหรือไม่เห็นผล และเมื่อร่างกายได้สร้างภูมิคุ้มกันออกมาเพื่อต่อต้านโบท็อกซ์ เนื่องจากคิดว่าเป็นสารแปลกปลอม ทำให้ต้องเพิ่มปริมาณในการฉีดและฉีดบ่อยเกินไปจนเกิดการดื้อโบท็อกซ์ในที่สุด

วิธีเลือกฉีดโบท็อกซ์ให้ปลอดภัย

  1. หาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิก เลือกใช้บริการคลินิกที่มีใบอนุญาตรับรองอย่างถูกต้อง เปิดให้บริการอย่างถูกกฎหมายและได้รับมาตรฐาน
  2. แพทย์ที่ทำหัตถการมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ เพื่อจัดการกับปัญหาได้อย่างตรงจุด และป้องกันการดื้อยาที่เกิดจากการใช้ปริมาณยาที่ไม่เหมาะสมหรือทำให้เกิดผลข้างเคียงหลังการฉีด
  3. เลือกยี่ห้อและรุ่นของโบท็อกซ์ให้ตรงกับปัญหาของแต่ละคน และที่สำคัญต้องเป็นโบท็อกซ์แท้ สามารถตรวจสอบได้ หลังฉีดควรขอกล่องและขวดกลับบ้าน หรือถ่ายรูปเก็บไว้ตรวจสอบ ซึ่งหากเป็นคลินิกที่ใช้ของแท้ก็จะยินดีให้คนไข้ตรวจสอบได้

สำหรับการฉีดโบท็อกซ์ให้ปลอดภัย ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ ไม่ต้องเสี่ยงไปเจอโบท็อกซ์ปลอม ควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ โดยให้เลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีความน่าเชื่อถือ ทำหัตถการโดยแพทย์ และสามารถตรวจสอบโบท็อกซ์ก่อนฉีดได้

 

วิธีการเช็กโบท็อกซ์XEOMIN BOTOX แท้

แชร์บทความนี้