โดยธรรมชาติ โครงสร้างของหน้าคนเราจะแตกต่างกันอยู่แล้ว แต่ปัญหาที่ส่วนใหญ่ประสบบพบเจอนั่นคือ “กรามใหญ่” ทำให้หน้าดูเป็นทรงสี่เหลี่ยม แข็ง ทำให้ใบหน้าไม่หวาน แต่ด้วยยุคปัจจุบันที่มีการพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง และมีอยู่วิธีหนึ่งที่ช่วยให้สาวๆมีใบหน้าที่เรียวสวยขึ้นนั่นคือ “การศัลยกรรมผ่าตัดกราม” ที่สามารถช่วยปรับรูปหน้าให้มีสัดส่วนแลสมดุลมากขึ้น สำหรับสาวๆคนไหนที่กำลังสนใจศัลยกรรมกรามวันนี้ผู้เขียนได้รวบรวมข้อมูลดีมาฝากกันค่ะ
เทคนิคการผ่าตัดมี 2 แบบ
1.เทคนิคซ่อนแผลในช่องปาก
เป็นเทคนิคที่นิยมในหมู่สาวๆมากๆ เพราะไม่ทำให้เห็นแผลการผ่าตัดและได้ทรงกรอบกระดูกบริเวณแถวกรามที่โค้งสวย แต่การผ่าตัดเทคนิคนี้จำเป็นต้องใช้ความเชี่ยวชาญของแพทย์อย่างมากค่ะ
ข้อดี
- ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
- ตัดแต่งมุมกรามได้สวย
- ไม่กระทบต่อเส้นประสาท
ข้อเสีย
- อาจจะมีอาการบวมมากว่า 15 วัน
- ต้องรักษาความสะอาดในช่องปากอย่างดี เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ
2.เทคนิคแผลนอกช่องปาก
เป็นเทคนิคการผ่าตัดด้านนอกช่วงบริเวณซอกเหงือกด้านหลังฟันซี่สุดท้ายในปาก
ข้อดี
- เป็นเทคนิคที่แพทย์มองว่า ง่ายกว่าการผ่าตัดเทคนิคแผลในช่องปาก
- อาการบวมน้อยกว่า
- รักษาดูแลตัวเองหลักผ่าตัดง่ายกว่า
ข้อเสีย
- เสียงต่อการกระทบเส้นประสาท
- มีแผลเป็น แต่สามารถรักษาทีหลังได้
- อาจเกิดอาการปากเบี้ยวได้ชั่วคราว
การศัลยกรรมกรามดีอย่างไร?
สามารถช่วยแก้ไขรูปทรงใบหน้าให้สมดุล เรียวสวย สมส่วนมากยิ่งขึ้น
การศัลยกรรมกรามเหมาะกับใคร ?
- ผู้ที่มีปัญหาหน้าไม่สมส่วน
- ผู้ที่มีปัญหาขากรรไกรล่างใหญ่
- ผู้ที่มีขนาดของกระดูกกรามใหญ่กว่าปกติ
หวังว่าเพื่อนๆจะได้ข้อมูลบางส่วนเพื่อไปช่วยการประกอบการตัดสินเบื้องต้นเเล้วใช่ไหมคะ แต่ถ้าหากเพื่อนๆคนไหน ไม่อยากเจ็บตัว และไม่อยากฟักฟื้นดูแลตัวเองหลังผ่าตัดนานขนาดนี้ ผู้เขียนก็มีอยู่อีกวิธีหนึ่งเป็นทางเลือกให้กับคนที่กลัวเจ็บมากๆ นั่นคือการฉีด โบท็อก xeomin เพราะวิธีที่ง่ายและประหยัดเวลามากๆ ไม่มีการพักฟื้นใดๆ ฉีดเสร็จก็สามารถใช้ชีวิตปกติได้เลย แถมผลลัพธ์ยังยาวนานได้ถึง 4-6 เดือนกันเลยทีเดียวค่ะ